ประวัติภาพ Girl with A Pearl Earring

บางทีภาพเขียนหลายๆ ภาพก็อาจไม่สามารถบ่งบอกรายละเอียดที่ชัดเจนได้มากนัก ส่วนหนึ่งก็มาจากว่าเป็นภาพที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจนบางทีไม่สามารถค้นหารายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนได้ทำให้ภาพนั้นๆ ก็ยังคงเป็นภาพแห่งตำนาน ที่ต้องตามหาร่องรอยกันต่อไปว่าสรุปแล้วคนวาดต้องการสื่อถือความหมายอะไรกันแน่ ซึ่งภาพเหล่านี้มักจะมีเสน่ห์ตรงที่การตีความหมายของแต่ละคนว่าจริงๆ แล้วภาพที่ว่าเป็นภาพในลักษณะใดกันแน่ อย่างภาพที่ชื่อว่า Girl with A Pearl Earring ก็เป็นอีกภาพวาดที่มีความน่าสนใจไม่น้อยในฐานะการเป็นภาพวาดระดับโลก

Girl with A Pearl Earring ภาพวาดที่น่าสนใจ

Girl with A Pearl Earring มีชื่อภาษาดัตช์ว่า Het Meisje met de Parel แปลเป็นไทยก็คือ สาวใส่ต่างหูมุก เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่ถูกเขียนขึ้นมาโดยโยฮันเนิส เฟอร์เมร์ จิตรกรที่เป็นชาวดัตช์ตั้งแต่ยุคสมัยบาโรก ทุกวันนี้ภาพ Girl with A Pearl Earring ได้ถูกนำมาจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานศิลปะ Mauritshuis ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ตัวของเฟอร์เมร์ได้ทำการเขียนภาพ Girl with A Pearl Earring เสร็จสิ้นเมื่อปี ค.ศ.1665 ภาพดังกล่าวนี้บางครั้งก็ถูกขนานนามว่า “โมนาลิซ่าแห่งทิศเหนือ” หรือ “โมนาลิซ่าของชาวดัตช์” กันเลยทีเดียว จะว่าไปภาพดังกล่าวนี้แทบไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงตัวผู้เขียนและความหมาย ของภาพออกมาได้อย่างชัดเจนเลยด้วยซ้ำ มีเพียงการลงชื่อ IVMeer แต่ก็ไม่ได้มีการลงวันที่รวมถึงไม่มีใครทราบแน่ชัดด้วยว่างานนี้ เป็นงานที่ศิลปินตั้งใจวาดขึ้นมาเพื่อให้เกิดความหมายหรือเป็นภาพที่ถูกจ้างให้เขียนขึ้นมากันแน่ ซึ่งถ้าหากเป็นคนที่มีการให้จ้างเขียนเขาคนนั้นคือใคร อย่างไรก็ตามจากลักษณะของภาพแล้วทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าภาพนี้ไม่ได้มีความหมายธรรมดาทั่วไปแน่นอน จากรายละเอียดที่มีความเกี่ยวข้องกับเฟอร์เมร์ซึ่งเป็นผู้เขียนภาพนี้ขึ้นมาแสดงให้เห็นว่างานนี้เป็นงาน tronie ซึ่งเป็นงานเขียนสไตล์เนเธอร์แลนด์มีส่วนศีรษะที่ไม่ได้เจาะจงว่าภาพดังกล่าวนี้คือใครกันแน่ ซึ่งภาพดังกล่าวหลังได้มีการปรับปรุงบูรณะใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1994 บริเวณสายตาที่ส่งตรงมองออกมายังคนที่ดูถูกปรับให้มีความชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

ภาพ Girl with A Pearl Earring จึงถือเป็นภาพที่หลายคนสามารถตีความหมายได้เยอะโดยไม่ต้องคิดมากว่าจริงๆ แล้วผู้วาดต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ เพราะแม้แต่ประวัติหรือรายละเอียดของภาพที่แท้จริงก็ยังไม่มีใครให้ความเข้าใจได้อย่างชัดเจน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นภาพที่มีความสวยงามที่สุดภาพหนึ่งของโลกเลยทีเดียว